GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Detroit: Become Human"
10 เกม PC/Console น่าเล่นประจำเดือนธันวาคม 2019
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2019 แล้ว จะเห็นได้ว่าวันเวลาได้ผ่านไปเร็วเหลือเกินรู้ตัวอีกทีชีวิตของเราก็ได้ก้าวข้ามมาแล้วอีกหนึ่งปี ในวงการเกมก็เช่นกันเกมต่าง ๆ ก็ยังคงทยอยออกมาให้เราได้เล่นกันอย่างมากมาย แม้ว่าเกมของเดือนนี้จะไม่เด่นเหมือนกับเดือนอื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีเกมเด็ด ๆ ให้เราได้เลือกเล่น วันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอแนะนำเกมน่าเล่นประจำเดือนธันวาคม 2019 ให้เพื่อน ๆ ได้หามาลองเล่นกัน 1.Arise: A simple story ( 3 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4 เปิดมาเกมแรกกับเกม Arise เกมที่ว่าด้วยเรื่องราวการเดินทางในห้วงอารมณ์ของคุณตาท่านหนึ่ง ระหว่างโลกแห่งความรักและการสูญเสีย ที่ชูจุดเด่นด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและงานศิลป์ในเกมที่เน้นไปยังการสื่ออารมณ์ระหว่างการเล่น ใครที่ชอบเกมแนวอาร์ทและดนตรีไพเราะขับกล่อมในวันหยุดยาว ไม่ควรพลาดเกมนี้อย่างเด็ดขาด 2. Halo: The Master Chief Collection (3 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : Xbox One, PC สุดยอดซีรีส์เกมแนว FPS ที่เดิมเป็น Exclusive ของทาง Microsoft คงหนีไม่พ้นเกม Halo ในตอนนี้ได้เดินทางมาถึงมือของเหล่าผู้เล่นชาว PC แล้ว โดยตัวเกมมาในรูปแบบของ The Master Chief Collection ที่มีให้เราเล่นตั้งแต่ภาค Halo: Reach ไปจนถึงเกม Halo 4 เลยทีเดียว แม้ว่าเกมจะเก่าแล้วแต่หากเสพความสนุกจากเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว 3.SaGa: Scarlet Grace: ambitions (3 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4, Nintendo Switch ,PC,  iOS, Android SaGa: Scarlet Grace: ambitions หลังจากที่วางจำหน่ายเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ในที่สุดก็มีเวอร์ชันภาษาอังกฤษมาให้เราได้เล่นเสียที โดยตัวเกมเป็นเกมแนว RPG ที่มีกราฟิกสวยงามและมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม นอกจากนี้ตัวเกมยังเตรียมลงมือถืออีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสบายมาก ๆ เลยสำหรับเกมนี้ 4.Everreach: Project Eden (4 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4  ,PC ,Xbox One ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจับตามองมาก ๆ สำหรับ Everreach: Project Eden เกมแนว Action - RPG ที่ได้มือเขียนบทของเกม Mass Effect ทั้งสามภาคมาเขียนบทของเกมให้ โดยเตัวเกมจะให้เราสำรวจโลกของดวงดาวที่มีชื่อว่า Eden บ้านของเอเลี่ยนที่น่าค้นหา รวมถึงระบบเกมการเล่นที่หลากหลายและออกแบบมาเพื่อเล่นกับเมาส์และคีย์บอร์ดโดยเฉพาะในเวอร์ชัน PC ทำให้เกมนี้น่าจับตาเป็นอย่างมาก 5.Darksiders Genesis (5 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4 , Nintendo Switch ,PC ,Xbox One Darksiders Genesis เกมแนว Action - RPG สุดมันจากทางทีมงาน Airship Syndicate ที่เป็นตัวเกมภาค spin-off ของซีรีส์ Darksiders ภาคหลัก โดยจุดเด่นของตัวเกมคือการเป็นเกมที่จัดเต็มในเรื่องของความเป็น Action - Hackn Slash ที่มีกราฟิกที่สวยงามและการต่อคอมโบที่เร้าใจ นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับการเล่นแบบ Co-Op อีกด้วย สาวก Darksiders ไม่ควรพลาด 6.Star Ocean First Departure R (5 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 STAR OCEAN First Departure R คือตัวเกมภาค Remaster ของเกม STAR OCEAN First Departure เกมแนว JPRG บนเครื่อง PSP ที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะเคยสัมผัสมาแล้ว โดยรอบนี้ตัวเกมได้มีการปรับปรุงหลาย ๆ ส่วนให้ดีกว่าเดิมเช่น การอัปสเกลภาพในรูปแบบของ Full - HD , ปรับปรุง Mechanic ของการต่อสู้ใหม่ รวมถึงเสียงพากย์ที่สามารถสลับได้ระหว่างเสียงภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นได้อย่างอิสระ ใครอยากจะลองสัมผัสกับเกม JPRG ที่ดีเกมหนึ่งก็ลองเกมนี้เลย 7.Counter Terrorist Agency (5 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PC Counter Terrorist Agency คือเกมที่ให้เราสวมบทบาทเป็นหน่วยข่าวกรองในการต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก โดยเราจะต้องทำการสืบค้นข้อมูล บริหารองค์กรในการรับมือกับการก่อการร้ายจากทั่วทุกมุมโลกและลงมือก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยสำหรับเกมนี้ 8.Mosaic (6 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 , Nintendo Switch ,PC ,Xbox One Mosaic ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่อินดี้ที่น่าสนใจ โดยตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวของตัวเอกที่อยู่ในเมืองที่แสนจะจำเจและน่าเบื่อจนเราไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิต แต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างก็ได้เกิดขึ้นในชีวิตเขาและได้เปลี่ยนสิ่งที่เขารับรู้ไปตลอดกาล 9. Detroit: Become Human (12 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PC สุดยอดเกม Exclusive จากทางฝั่ง PlayStation 4 ที่ในตอนนี้ได้เดินทางมาถึงเกมเมอร์ฝั่ง PC แล้วกับ Detroit: Become Human เกมแนว Action-adventure game จากทีมงาน Quantic Dream ที่ว่าด้วยเรื่องราวของหุ่น Android 3 ตัวที่โชคชะตาและการกระทำของผู้เล่นได้สร้างเรื่องราวของพวกเขาขึ้นมา ตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม พร้อมกับฉากจบที่หลากหลาย หากใครที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้ถือว่าพลาดอย่างแรง 10.Lost Words: Beyond the Page (ภายในเดือนธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 , Nintendo Switch ,PC ,Xbox One ปิดท้ายกันด้วยเกม Lost Words: Beyond the Page เกมอินดี้คุณภาพดีเจ้าของรางวัลหลากหลายสาขาจากเวที Game Connection โดยว่าด้วยเรื่องราวของเกมจะถูกนำเสนอด้วยรูปแบบที่น่าสนใจ ภายใต้งานศิลป์ที่สดใสและโลกที่มีชีวิตชีวา ยิ่งได้ Rhianna Pratchett นักเขียนผู้อยู่เบื้องหลังเนื้อเรื่องของเกมดัง ๆ อย่าง Mirrors Edge , Tomb Raider , Rise of the Tomb Raider ยิ่งทำให้เกมนี้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเกมน่าเล่นประจำเดือนธันวาคม 2019 จะเห็นได้ว่าจะหนักไปทางด้านเกมอินดี้เป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงกระนั้นคุณภาพของเกมก็ไม่ได้แพ้เกมระดับ AAA อย่างแน่นอน ขอให้เพื่อนชาวเกมเมอร์มีความสุขกันตลอดเดือนสุดท้ายของปี 2019 กันครับผม
28 Nov 2019
Detroit: Become Human เปิดเผยวันวางจำหน่ายบน PC แล้ว!
Quantic Dream ผู้สร้างเกมชื่อดังแนวเดียวกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Beyond Two Soul หรือ Heavy Rain ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมาว่าเกมใหม่ล่าสุดที่ได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมอย่าง Detroit: Become Human จะถูกพอร์ตมาลงให้กับเครื่อง PC ปีนี้ วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้เปิดเผยวันวางจำหน่ายของตัวเกมเวอร์ชั่น PC แล้วครับ! Detroit: Become Human เวอร์ชั่น PC จะถูกวางขายวันที่ 12 ธันวาคมนี้บน Epic Games Store เนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึงปี 2038 ซึ่งเป็นยุคที่ Android เริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย จนนำไปสู่ความขัดแย่งต่างๆ ในสังคม โดยเกมจะเล่าถึงมุมมองของทางฝั่ง Android ที่แตกต่างกันมากๆ 3 คน คือ Kara, Connor และ Markus แต่ละคนก็จะมีเรื้องราวที่แตกต่างกันไปนั้นเอง สิ่งที่คาดหวังจะได้ก็คือกราฟิกที่น่าจะสวยขึ้นอย่างมากแน่ๆ ของเกมนี้ นอกจากนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อย Trailer ตัวใหม่ของเวอร์ชั่น PC ออกมาแล้วด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Detroit: Become Human วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PS4 และกำลังจะวางจำหน่ายบน PC วันที่ 12 ธันวาคมนี้ครับ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
20 Nov 2019
หัวหน้า Quantic Dream ออกความเห็นเรื่องใช้ดาราทำการตลาดให้เกม
ปัจจุบันการทำเกมและใช้ Motion Capture เริ่มเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ ในธุรกิจพัฒนาเกม ทั้งนี้ก็มีหลายคนที่มองว่าการใช้นักแสดงดังจาก Hollywood มาแสดงในเกมหรือพากย์เสียงมันเป็นแค่วิธีทางการตลาดเท่านั้น แต่หัวหน้าของ Quantic Dream เข้าไม่ได้คิดอย่างนั้น David Cage ได้กล่าวว่า "มันไม่ใช้แค่การตลาดอีกต่อไปแล้ว เมื่อนักแสดง Hollywood สามารถดึงอารมร์ในด้านต่างๆ ของตัวละครออกมาได้ดีมากกว่าใช้ CG มันก็ทำให้คุณภาพของเกมสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นผมไม่คิดว่าการเอานักแสดงมาเป็นส่วนหนึ่งของเกมมันเป็นเพียงการตลาดเลยแม้แต่นิดเดียว" อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีนักแสดงเริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามามีส่วนในการพัฒนาเกมมากขึ้นแล้วละก็ อาจเป็นการยกระดับของการพัฒนาเกมไปอีกขึ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
11 Sep 2019
NetEase เข้าไปมีหุ้นส่วนเล็กๆ ในทีมพัฒนาผู้สร้าง Detroit: Become Human
Quantic Dream เป็นหนึ่งในทีมพัฒนาที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการสร้างเกมเพลย์เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก ซึ่งแต่ละเกมก็ได้รับคำชมอยู่มากมายพอสมควร อย่าง Heavy Rain หรือ Detroit: Become Human แต่ก็ต้องบอกว่าเกมของค่ายนี้นั้นจะขึ้นตรงเฉพาะกับ PS4 เท่านั้น แต่ดูเหมือนภายในองค์กรอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะล่าสุดทางผู้พัฒนาได้ประกาศผ่านทาง VentureBeat ว่าทางบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง NetEase ได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนเล็กๆ ของบริษัทนี้ และต่อไปตัวเกมจะลงให้กับทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว ว่าทาง Sony และ Quantic Dream อาจจะไม่ได้มีการสนับสนุนกันแล้วหรือเปล่า ? หลังจากทำงานร่วมกันมามากกว่า 12 ปี และการร่วมงานใหม่ครั้งนี้ก็ยังคงภายใต้การทำงานของไดเร็คเตอร์อย่างคุณ  David Cage และ Guillaume de Fondaumiere เช่นเดิม โดยคุณ Ethan Wang รองประธานของ NetEase ได้กล่าวไว้ว่า "ด้วยการโฟกัสที่แข็งแรงของการพัฒนาภายในบริษัท เรากำลังมองหาพันธมิตรที่เติมเต็มในส่วนของพัฒนาและสร้างเกมใหม่อย่างต่อเนื่อง ความเป็นเลิศของ Quantic Dream ในการเล่าเรื่องแบบอินเทอร์แอคทีฟและความเชี่ยวชาญอันมีค่า ที่สร้างขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง เรามีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Quantic Dream และเราหวังว่าจะสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่เหลือเชื่อสำหรับผู้เล่นทั่วโลก” ทางไดเร็คเตอร์และ CEO ของ Quantic Dream อย่างคุณ Divid Cage ได้กล่าวว่า “ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมเกมจะต้องผ่านการวิวัฒนาการที่สำคัญในไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ที่กำลังจะมา โมเดลธุรกิจใหม่ที่ต้องสำรวจ และวิธีการใหม่ในการเล่น เราต้องการให้ Quantic Dream มีบทบาทสำคัญในอนาคตที่น่าตื่นเต้นนี้และการมี NetEase อยู่เคียงข้างเราในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้เราขยายวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ของเราและพัฒนาบริษัทให้มีศักยภาพสูงสุด ซึ่งทาง NetEase เข้าใจเรา และเขาหลงไหลในเกมคุณภาพสูงและความทะเยอทะยานของเราในสตูดิโอ" และสุดท้ายคุณ Guillaume de Fondaumiere ไดเร็คเตอร์และ Co-CEO ของ Quantic Dream ก็ได้กล่าวปิดท้ายว่า "เราประทับใจในวิสัยทัศน์ของ NetEase ความมุ่งมั่นในคุณภาพและนวัฒกรรมของพวกเขา และบันทึกความรู้ที่น่าประทับใจของพวกเขาในการประดิษฐ์ และดำเนินการเกี่ยวกับเกมมากมายที่นิยมทั่วโลก การร่วมมือกับ NetEase จะเปิดโอกาสใหม่ให้กับสตูดิโอของเราและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของเราในฐานะผู้บุกเบิกและนักประดิษฐ์” ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าก้าวที่สำคัญนี้ของทาง Quantic Dream จะออกมาแบบไหน
30 Jan 2019
Detroit: Become Human อาจจะมี DLC ของ Conner
หลังจากเมื่อต้นปีทางผู้พัฒนาค่าย Quantic Dream ทีมสร้างเกม Detroit: Become Human ได้โพส Twitter เป็นนัยๆ ว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้และรอให้ทุกท่านติดตาม ซึ่งล่าสุดเหมือนจะมีข่าวดีเพิ่มขึ้นแล้วเนื่องจากผู้ก่อตั้งของ Quantic Dream อย่างคุณ David Cage ได้ออกมาสวัสดีปีใหม่ทาง Twitter และได้โพสรูปของตุ๊กตา Conner หุ่น Android ตัวหลักในเกม Detroit: Become Human และเขียนกำกับไว้ว่า "เรามีแผนที่จะทำให้ปี 2019 มันน่าตื่นเต้นด้วยเช่นกัน" HAPPY NEW YEAR TO ALL! We wish you all a wonderful New Year with a lot of love, friends, laughs, and of course a lot of fun! 2018 has been an amazing year for Quantic Dream, thanks to you. We have plans to make 2019 very exciting too!#DetroitBecomeHuman #ConnorArmy pic.twitter.com/I9e11CTPQY — David Cage (@David__Cage) 4 มกราคม 2562 ซึ่งถ้าให้เดามันอาจจะเป็น DLC ของตัวละคร Conner ในเกมนี้ก็เป็นได้ โดยเกม Detroit: Become Human เป็นเกมที่มียอดขายมากถึง 2 ล้านชุด ถึงแม้ว่าอาจจะไม่เยอะเท่ากับเกม AAA อื่นๆ แต่ก็ถือว่ามากพอที่จะทำให้โปรเจคนี้ไปต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นการคาดการณ์ก็อาจจะไม่ตรงก็เป็นได้ โดยเกมนี้วางจำหน่ายเฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้น ที่มา Playstationlifestyle
07 Jan 2019
Quantic Dream แง้ม !! เราจะกลับมาในเร็ววันพร้อมข่าวดี
นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของทางทีมผู้พัฒนา Quantic Dream ที่ได้สร้างเกมยอดเยี่ยมอย่าง Detroit: Become Human ออกมา ซึ่งล่าสุดจากความสำเร็จนี้ทำให้ทางทีมผู้พัฒนาอาจจะมีเกมใหม่ในเร็ววัน !! เนื่องจากล่าสุดใน Twitter ของทาง Quantic Dream ได้ออกมาโพสข้อความขอบคุณผู้คนต่างๆ ที่ทำให้ปี 2018 นี้เป็นปีที่น่าเหลือเชื่อและยังยืนยันว่าพวกเขาจะกลับมาในเร็วๆ วัน "ขอบคุณทุกๆ ท่านสำหรับปี 2018 ที่น่าเหลือเชื่อนี้ เราจะกลับมาในเร็ววันพร้อมกับข่าวดี ขอให้ทุกๆ ท่านอยู่ดีมีสุขแบ่งปันความชอบและความรักของทุกท่าน !! รอดูได้เลย" Thank you all for a FABULOUS year 2018! We shall be back soon with some great news. Stay well and happy, share your passion and love! Stay tuned... pic.twitter.com/T7bxM3WsmG — QUANTIC DREAM #DetroitBecomeHuman (@Quantic_Dream) 31 ธันวาคม 2561 โดยเกม Detroit: Become Human เป็นเกมแนวเนื้อเรื่องที่เล่าเรื่องของเหล่าหุ่นแอนดรอยด์ที่มีความคิดจิตใจเหมือนมนุษย์ โดยเราสามารถเลือกตอบคำถามที่จะมีผลในอนาคต โดยเกมนี้ได้รับการเสนอเข้าชิง Game of the Year ในงาน The Game Awards 2018 อีกด้วย ตัวเกมลงเฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้นรวมถึงเกมในค่าย Quantic Dream อื่นๆ ก็จะเป็นแนวเดียวกันอย่างเช่น Beyond: Two Souls และ Heavy Rain เป็นต้น
02 Jan 2019
Detroit: Become Human ขายเกมไปได้ถึง 2 ล้านชุดแล้ว
ตอนแรกดูเหมือนว่าจะกระท่อนกระแท่นเหมือนกันสำหรับ Detroit: Become Human เกมแนวเนื้อเรื่องเลือกตอบจากทางผู้พัฒนา Quantic Dream ที่ตอนแรกดูเหมือนว่ายอดขายเกมจะไม่ตรงตามเป้าเสียเท่าไร แต่ล่าสุดทางผู้พัฒนาได้ประกาศออกมาแล้วว่าเกมนี้มียอดขายถึง 2 ล้านชุดเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เยอะถ้าให้เปรียบกับเกม AAA อื่นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ได้กำไรแน่นอน โดยเกมนี้มีข่าวว่าใช้ทุนสร้างประมาณพันล้านบาท ซึ่งกำไรที่ได้จากการขายเกมนี้น่าจะอยู่ราวๆ 3 พันล้านบาทนั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=YtPmIBqRwQU Detroit: Become Human เรื่องราวจะอยู่ในโลกอนาคตที่หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหุ่นยนต์พวกนี้มีความคิด มีชีวิตจิตใจ ซึ่งเนื้อเรื่องของตัวเกมจะอยู่ที่เราเลือกตอบคำถามต่างๆ และจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องในอนาคต ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนที่เล่นเกมนี้จะมีเนื้อเรื่องไม่เหมือนกัน โดยตัวเกมวางจำหน่าย Exclusive เฉพาะเครื่อง PS4 ราคาราวๆ 60$
13 Dec 2018
ผู้กำกับ Detroit: Become Human เผยตารางเนื้อเรื่องอันโคตรซับซ้อนของเกม
เพื่อนๆ ทุกคนที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นกว่า 1.5 ล้านคนที่ได้เล่นเกม Detroit: Become Human จะต้องเข้าใจว่าเนื้อเรื่องของเกมแม่งโคตรซับซ้อนขนาดไหน มีตัวเลือกแตกแขนงออกไปได้กี่ทางบ้าง แน่นอนว่าเกมที่เนื้อเรื่องซับซ้อนและแตกแขนงมากมายขนาดนี้ย่อมเป็นบททดสอบที่หินมากๆ สำหรับคนที่จะต้องเขียนหรือกำกับ ถ้าอยากรู้ว่าซับซ้อนขนาดไหน ให้ดูภาพในทวิตเตอร์ล่าสุดของผู้กำกับเกมอย่างคุณ David Cage ที่เปิดเผยตารางความเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องของเกม ซึ่งดูแล้วก็ได้แต่ทึ่งว่าดูกันยังไงให้รู้เรื่อง... Ever wondered what the structure of a scene by Quantic looks like? Here are two charts showing what a nightmare our games are to write, script, shoot and test... but this is also what makes them special! Props to our scripters ;-)#DetroitBecomeHuman#ConnorArmy pic.twitter.com/LgR4yLH4db — David Cage (@David__Cage) August 28, 2018 ปรบมืออีกครั้งให้คุณ David Cage และทีมบททุกคนคร้าบ  
29 Aug 2018
บทสัมภาษณ์สุดพิเศษคุณ Bryan Dechart และ Amelia Rose Blaire จาก Detroit: Become Human
คุณคิดว่าอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของ Detroit: Become Human? Bryan: ก็เพราะแฟนๆ ชาวไทยนั่นแหละ! (ขำ) เอาจริงๆ ผมคิดว่ามันคือความหลากหลายของเกม ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถนำเนื้อเรื่องของกันและกันมาแลกเปลี่ยนกันได้ว่าประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันแค่ไหน มันเหมือนว่าเกมให้โอกาสผู้เล่นได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง มันอาจจะไม่ใช่สูตรการสร้างเกมที่ใหม่หรือแตกต่างกับเกมหลายๆ เกมที่ผ่านมา แต่มันเหมือนเราเอากล่องของเล่นเทลงบนโต๊ะแล้วเล่นกับทุกอย่างที่เราชอบพร้อมๆ กันในเกมเดียว   ด้วยเทคโนโลยี Motion Capture ที่ก้าวหน้าไปมากสามารถทำให้เราบันทึกทั้งเสียงและร่างกายของนักแสดงไปไว้ในเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้น การแสดงในลักษณะนี้าสำหรับการ Motion Capture มีความท้าทายหรือแตกต่างกับการแสดงหนังหรือภาพยนตร์แค่ไหน อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด Amelia: หนึ่งในความแตกต่างใหญ่ๆ ระหว่างการแสดงสำหรับรายการทีวีหรือภาพยนตร์และการแสดงสำหรับ Motion Capture คือการแสดงสำหรับ Motion Capture จะไม่มีฉาก ไม่มีเสื้อผ้าหน้าผมใดๆ ทำให้นักแสดงต้องใช้จินตนาการสูงมากๆ ในการแสดงออกมาให้สมจริง แต่สิ่งที่ได้คือเราสามารถถ่ายได้หลายฉากมากขึ้นต่อวัน ซึ่งก็เหนื่อยเหมือนกัน Bryan: ความแตกต่างอีกอย่างคือเรื่องความยืดหยุ่นของเกม เพราะผู้เล่นจะเป็นคนกำหนดว่าตัวละครจะตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างไร ฉะนั้นการถ่ายบทสนทนาซักฉากหนึ่งจะถ่ายทางเลือกทั้งหมดที่สามารถเลือกได้ต่อๆ กัน ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะส่งบทมาให้ผม แล้วผมก็จะตอบตามทางเลือกที่หนึ่งแล้วเว้นว่างซักครู่ แล้วก็ตอบแบบทางเลือกที่สองแล้วก็หยุด แล้วก็ทางเลือกที่สามไปเรื่อยๆ พอครบทุกทางเลือกแล้วคุณจึงค่อยตอบบทผมอีกที ฉะนั้นอาจจะพูดได้ว่าการแสดงหนังหรือทีวีจะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เราเรียกการถ่ายแบบนี้ว่าเป็นวงจร (cycle) คือการตอบบทแบบนึง หยุดพักเพื่อเซ็ตอารมณ์ใหม่ตามทางเลือกอีกทาง แล้วค่อยแสดงต่อ ซึ่งเป็นวิธีการแสดงที่ค่อนข้างแปลกสำหรับนักแสดงทั่วไป หนึ่งในฉากของคอนเนอร์ที่เป็นขวัญใจคนไทยคือฉากที่คอนเนอร์ตบหน้าแฮงค์เพื่อปลุกเขา ซึ่งได้ข่าวว่าเป็นสิ่งที่คุณคิดขึ้นมาเองสดๆ ในขณะถ่ายทำด้วย เล่าเรื่องตรงนี้ให้ฟังหน่อย Bryan: ขณะเวลาถ่ายทำ David Cage (ผกก.) บอกผมเสมอว่า เวลาคอนเนอร์จะทำอะไรซักอย่าง เขาจะเลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดเสมอ อย่างการเปิดประตู มนุษย์ทั่วไปอาจจะมีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่าเยอะในการเอื้อมไปจับและบิดกลอนประตู ในที่สำหรับคอนเนอร์จะเลือกขยับอย่างสูญเปล่าน้อยที่สุดเป็นต้น ทีนี้พอถึงเวลาที่ผมต้องปลุกแฮงค์ ผมก็เลยใช้วิธีที่เร็วและตรงไปตรงมาที่สุดคือตบหน้าเข้าให้ซักที ซึ่งดูจะเป็นสิ่งที่คอนเนอร์จะทำจริงๆ ผมจำได้ว่าคุณ David Cage ก็เคยติงๆ ว่าตบแรงไปหน่อย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคอนเนอร์ตัวจริงก็คงทำแบบเดียวกับผมนี่แหละ   คุณเข้ามาร่วมเป้นส่วนหนึ่งของ Detroit: Become Human ได้อย่างไร Bryan: ผมต้องมาแคสติ้งบทสำหรับ Detroit: Become Human หลายครั้งมาก โดยปกติการแคสติ้งสำหรับหนังหรือทีวีอาจจะทำแค่สองถึงสามรอบ แต่สำหรับ Detroit ผมต้องมาแคสติ้งถึง 5-6 รอบก่อนจะผ่าน โดยการแคสติ้งครั้งแรกผมจำได้ว่าเป็นบทจากตัว Kara Tech Demo ที่ค่ายปล่อยออกมาเพื่อแนะนำ Engine เกมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ค่ายใช้ โดยเนื้อเรื่องของ Tech Demo ตัวนี้ได้กลายมาเป็น Detroit ในภายหลัง ซึ่งบทที่ผมได้รับเป็นบทตอนที่ Kara ถูกปลุกให้ตื่นและต้องอ้อนวอนกับเหล่ามนุษย์ให้เธอได้มีชีวิตต่อไป   ได้ข่าวมาว่าบทพูดของเกม Detroit: Become Human มีความยาวรวมกว่า 2000 หน้า คุณมีวิธีอะไรในการเตรียมตัวเพื่อเข้าฉากบ้าง Bryan: (ถอนหายใจเฮือกใหญ่) ผมรู้มาจากทีมงานว่าบทพูดของคอนเนอร์เป็นบทที่แตกเส้นสายเหตุการณ์ได้หลากหลายที่สุด ผมจึงใช้สัญลักษณ์ของเพลย์สเตชั่น (สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม X O) เพื่อช่วยจำว่าบทนี้ต่อมาจากบทไหน นอกจากนี้ผมยังใช้สีต่างๆ เพื่อจุดประสงค์เดียวกันด้วย เพราะบทของคอนเนอร์มีทางเลือกที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งบทที่เป็นเครื่องจักรเต็มตัวและบทที่เป็น Deviant (หุ่นที่มีความรู้สึก) สิ่งที่ผมทำคือผมสร้างวงล้อสีเหมือนที่เห็นใน Photoshop แล้วไปทาบลงบนตารางชั่ว-ดีของเกม DnD (Dungeons and Dragons หรือเกม RPG กระดาษที่โด่งดัง) เพื่อช่วยตัวเองจำว่ากำลังแสดงเส้นเรื่องไหนอยู่ จะได้คงอารมณ์จากฉากที่แล้วได้ถูก Amelia: Bryan เป็นคนที่มีวความจำดีมากๆ อีกด้วย การที่เค้าสามารถจำบทพูดทั้งหมดของตัวเองได้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ และฉันเองก็จะช่วยเขาท่องบทผ่านสไกป์ด้วยตอนที่เขาไปถ่ายทำที่กรุงปารีส ในขณะที่ฉันถ่ายทำอยู่ที่ ลอส แองเจลีส แม้บางทีเวลาอาจจะไม่ตรงกัน เช่นเป็นเวลากลางวันของฉันแต่ดลางคืนของเขา แต่เราก็สไกป์กันเป็นประจำ Bryan: นี่แหละครับโค้ชการแสดงของผม (หัวเราะ) ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นดาราดังจากทีวีหรือภาพยนตร์เริ่มหันเหมาแสดงในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเราจะเห็นอะไรแบบนี้มากขึ้นจนเป็นปกติไหมในอนาคต Bryan: ผมมองว่าวีดีโอเกมมันคืออนาคตนะ เทคโนโลยีก็นับวันจะยิ่งเข้าถึงง่ายขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปคนก็จะสามารถใช้การ Motion Capture ได้หมด ไม่ใช่แค่หนังจากค่ายใหญ่ๆ เท่านั้นที่ใช้ได้ แต่ทีวี หรือกระทั่งนักพัฒนารายย่อยและนักเรียนนักศึกษาด้วย ทุกคนจะสามารถใช้เทคโนโลยีที่เราใช้สำหรับ Detroit ได้ และยิ่งมีคนใช้เยอะก็จะยิ่งเกิดการพัฒนาที่เร็วขึ้นด้วย ผมยังเคยเห็นเทคโนโลยีที่สามารถจับการเคลื่อนไหวของคนและใช้ควบคุมหุ่นโมเดล CG ได้แบบ real-time เลย ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะเปิดทางเลือกให้ผู้สร้างและผู้เล่นมากขึ้น ทั้งในด้านการดำเนินเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ ถ้าคุณต้องให้คำแนะนำกับเด็กหรือนักเรียน/นักศึกษาที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดง Motion Capture สำหรับเกม คุณจะให้คำแนะนำอะไรบ้าง Bryan: จงศึกษาให้หนักๆ ในเรื่องการใช้เสียงและการเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะในการถ่ายทำหนังหรือทีวีเรารู้ว่ามันมีความจำกัดของเฟรมกล้อง ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถโฟกัสเฉพาะจุดที่กล้องเห็นได้ ในขณะที่การแสดงสำหรับเกมจะเป็นการอัดทั้งการเคลื่อนไหวของใบหน้าและร่างกายเราจากทุกมุมตลอดเวลาแบบ 360 องศาเลย คล้ายๆ กับการแสดงบนละครเวทีมากกว่า ที่เราต้องรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายตัวเองตลอดเวลาในทุกฉาก Amelia: ฉันขอเสริมนืดนึงว่าการแสดงสำหรับเกมมีความยากและกดดันกว่าหนังและทีวีมาก เพราะต้องคำนึงถึงทุกส่วนของร่างกายตลอดเวลาเพื่อสื่ออารมณ์ให้ถึงผู้เล่น ถ้าในอนาคตอันใกล้มีหุ่นแอนดรอยด์แบบเดียวกับใน Detroit ออกวางจำหน่าย คุณจะซื้อมาใช้เองซักตัวไหม Bryan: (หัวเราะแหยๆ) โอย ตายละ คุณอยากจะรับแทนไหม (ส่งคำถามให้ Amelia) Amelia: เอิ่ม… (ขำ) มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ เพราะหลังจากที่ได้เล่น Detroit มาสัญชาตญาณแรกของฉันคือการตอบว่า ‘ไม่’ แต่ในขณะเดียวกันก็คงจะดีเนอะถ้าเรามีคนมาช่วยเราล้างจานซักผ้า หรือทำงานบ้านที่เราไม่อยากทำ แต่ฉันคงทนรู้สึกผิดไม่ไหวเหมือนกัน คงยอมปล่อยให้หุ่นไปมีชีวิตของมัน
21 Aug 2018
ชมภาพเกม Detroit: Become Human เวอร์ชั่น 16 bit จากรัซเซีย!
ถ้าพูดถึงเกมที่กระแสแรงที่สุดในช่วงนี้ หนึ่งในเกมที่น่าจะอยู่ในใจหลายๆ คนคงหนีไม่พ้น Detroit: Become Human เกมจากค่าย Quantic Dream ที่วางจำหน่ายกันไปแบบ Exclusive ในเครื่อง PS4 ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เกมเมอร์หลายๆ คนที่ยังไม่มี PS4 อาจจะไม่มีโอกาสได้เล่นเกมนี้ แต่ปัญหานั้นกำลังจะหมดไปเมื่อผู้พัฒนานิรนามจากรัซเซียได้เริ่มสร้างเกม Detroit ใหม่ในเวอร์ชั่น 16 Bit! Enthusiasts from Russia make a demake of the first chapter of #DetroitBecomeHuman.The project has working title Detroit: Become Pixel. The project is planned to be released on a PC and, possibly, on Android. There is no exact release date. pic.twitter.com/NsLKiyDZxS— Quantic Dream Games (@qdream_ru) June 27, 2018 โดยเกมเวอร์ชั่นนี้กำลังพัฒนาใต้ชื่อ Detroit: Become Pixel ซึ่งมีแผนว่า(อาจ)จะวางจำหน่ายใน PC และ Android ในอนาคต งานนี้อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่มี PS4 แต่อยากลองเกมสุดฮิตอย่าง Detroit กะเค้าบ้าง
29 Jun 2018
รีวิว Detroit: Become Human
Detroit ถือเป็นเกมลำดับที่สี่จากค่าย Quantic Dream ที่เป็นแนว Interactive Drama-Action Adventure คือเป็นเกมที่มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อเรื่องและการนำเสนอด้านภาพยนตร์เป็นหลัก โดยเราจะต้องคอยกดปุ่มเพื่อเลือกการกระทำของตัวละคร คล้ายๆ กับเรากำลังดูหนังแล้วเราสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับฉากที่เกิดขึ้นต่อไปได้ โดยไม่ว่าเราจะตัดสินใจแบบไหนก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิด ทุกๆ การตัดสินใจของเราจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ทำให้เกิดฉากจบได้หลายแบบ และเมื่อรวมกับผลลัพธ์ยิบย่อยตลอดทั้งเกมแล้ว ก็สามารถพูดได้อีกอย่างว่าการเล่นเกมของค่ายนี้เปรียบได้กับการดูหนังที่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นในโลก เพราะผู้เล่นคนอื่นๆ ย่อมมีวิธีเล่นที่ไม่เหมือนกับเรา โดยเกมก่อนหน้านี้ของค่ายก็มีเกมที่ทำได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นักอย่าง Beyond: Two Souls มีเกมที่ทำได้ดีมากอย่าง Farenheit และเกมที่กลายเป็นหนึ่งในประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดในชีวิตของใครหลายคนอย่าง Heavy Rain จึงน่าสนใจว่าหลังจากหายไปนานหลายปี Detroit จะกลายเป็นหนึ่งในเกมชั้นเยี่ยมอีกเกมหนึ่งหรือไม่ เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องของเกม Detroit เกิดขึ้นในยุคอนาคต ในโลกที่หุ่นยนต์แอนดรอยด์ได้รับการพัฒนาจนมีลักษณะที่เหมือนกับมนุษย์ทุกประการ แต่มีความสามารถที่เหนือกว่ามนุษย์ในทุกๆ ด้าน แต่ถึงอย่างนั้นแอนดรอยด์เหล่านี้ก็เป็นเพียงหุ่นยนต์ ไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง เป็นได้เพียงทาสรับใช้ของมนุษย์เท่านั้น แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันดีคืนดีแอนดรอยด์เหล่านี้เกิดมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเองขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ต้องการเป็นทาสรับใช้ของมนุษย์อีกต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทาสรับใช้ที่มนุษย์สร้างขึ้นมานี้ต้องการเรียกร้องอิสรภาพของตัวเอง มนุษย์จะยอมรับให้แอนดรอยด์เหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับตนหรือไม่ และแอนดรอยด์เหล่านี้จะมีวิธีการเช่นไรในการเรียกร้องอิสรภาพให้ตัวเอง ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และแอนดรอยด์คือประเด็นหลักของเกมนี้ ในเกมเราจะได้เล่นสลับเป็นตัวละครแอนดรอยด์สามตัว ได้แก่ Connor แอนดรอยด์ฝั่งตำรวจที่มีหน้าที่สืบและจัดการกับเหตุการณ์แอนดรอยด์ที่ผิดปกติ ซึ่งมีปัญหาเข้ากันไม่ได้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็น Connor เป็นเพียงเครื่องจักร แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหากับแอนดรอยด์พวกเดียวกันที่กล่าวโทษว่า Connor ทรยศพวกพ้องตนเอง Markus ผู้นำการปฏิวัติเรียกร้องอิสรภาพของแอนดรอยด์ ซึ่งต้องเลือกระหว่างการเรียกร้องสันติภาพอย่างสันติที่ดูไร้หนทาง กับการใช้กำลังที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ที่กดขี่และใช้ความรุนแรงกับเหล่าแอนดรอยด์ และ Kara แอนดรอยด์สาวที่พาเด็กสาวหลบหนีจากพ่อผู้มีปมปัญหาในชีวิตและใช้ความรุนแรงกับลูกสาวตนเอง ซึ่งต้องคอยรอนแรมหาที่พักพิงและปกปิดความเป็นแอนดรอยด์เพื่อเอาตัวรอดท่ามกลางเหตุการณ์ความวุ่นวายที่มนุษย์ส่วนใหญ่ดูจะเป็นปฏิปักษ์กับแอนดรอยด์อย่างไม่เลือกหน้า เกมเพลย์ วิธีการเล่นของเกมจากค่ายนี้หลักๆ แล้วคือการกดปุ่มเพื่อตัดสินใจ เป็นการเลือกคำพูดหรือการกระทำของตัวละคร ซึ่งสิ่งที่เราเลือกแน่นอนว่าจะมีผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เราอาจเลือกวิธีพูดอย่างนุ่มนวลเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ อาจเลือกโกหก หรือใช้กำลัง แต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป และหลายๆ ครั้งเราจะมีเวลาให้ตัดสินใจไม่นาน ไม่เช่นนั้นตัวละครจะเลือกตัดสินใจโดยอัตโนมัติ เป็นการเพิ่มความลุ้นระทึกและทำให้การตัดสินใจของผู้เล่นมาจากสัญชาตญาณมากกว่าที่จะมาจากการคิดมากเพื่อเลือกตำตอบที่ดีที่สุด นอกจากการกดปุ่มแบบที่เราตัดสินใจแล้วก็ยังมีแบบที่ไม่ต้องตัดสินใจด้วย เช่นให้ตัวละครเดิน หยิบจับสิ่งของ มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัว และแบบที่ลุ้นระทึกขึ้นมาหน่อยก็เป็นในฉากต่อสู้ต่างๆ ที่เราต้องกดปุ่มที่ปรากฏให้ทันเพื่อให้ตัวละครหลบการโจมตีให้พ้น นอกจากนั้นวิธีการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเกมนี้คือการกดปุ่มให้ตัวละครแอนดรอยด์ที่เราบังคับใช้ความสามารถของแอนดรอยด์เพื่อสำรวจฉาก โดยเราจะเห็นว่ามีสิ่งไหนที่เราสำรวจได้บ้าง นอกจากนี้ตัวละคร Connor ที่ทำงานกับตำรวจจะมีวิธีการเล่นที่เพิ่มขึ้นมาคือการสำรวจเพื่อหาเบาะแส ซึ่งเมื่อเราหาได้ครบเราจะสามารถจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาหลักฐานสำคัญเพิ่มขึ้นได้ ในขณะที่ตัวละครนักปฏิวัติอย่าง Marcus จะมีความสามารถในการคำนวณความเป็นไปได้ของการตัดสินใจเพื่อเลือกเส้นทางที่ทำแล้วมีโอกาสสำเร็จแน่นอน วิธีการเล่นของเกมนี้น่าสนใจอยู่ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเกมดำเนินไปเรื่อยๆ การเล่นแบบนี้ก็กลายเป็นอะไรที่ค่อนข้างซ้ำซากจำเจ แม้จะมีช่วงที่ตื่นเต้นหน่อยอย่างเวลาที่ต้องกดปุ่มให้ทันในฉากที่มีแอคชั่นเยอะๆ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วการกดปุ่มของเกมนี้ก็เหมือนเป็นการกดปุ่มดูหนังที่มีความเป็นไปได้หลายอย่างเท่านั้นเอง เพราะแบบนี้ความสนุกของเกมเลยไปขึ้นอยู่กับว่าหนังที่ว่าทำออกมาได้ดีแค่ไหน ซึ่ง Detroit ก็ทำออกมาได้ดีพอใช้แต่ไม่ได้ดีขนาดนั้น  กราฟิก ในด้านของกราฟิกของเกมนี้มีทั้งส่วนที่ทำได้ดีมากและส่วนที่ดูธรรมดา สภาพแวดล้อมในเกมไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ ฉากต่างๆ และตัวละครทำได้ตามมาตรฐานของเกมในยุคนี้ แต่เกมมีจุดเด่นที่ฉากโคลสอัพของบรรดาตัวละครสำคัญที่ทำออกมาได้ดีจนรู้สึกราวกับว่าภาพที่ปรากฏเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพกราฟิกที่สร้างขึ้นมา การตัดสินใจ จุดขายเลยของเกมนี้ก็คือการที่เกมเคารพการตัดสินใจของผู้เล่น เกมมีผลลัพธ์หลากหลายแบบไว้รองรับการตัดสินใจที่ต่างกันของผู้เล่นแต่ละคน ซึ่งเกมทำออกมาได้ละเอียดอ่อนมาก ถึงขั้นว่าวิธีที่เราปฏิบัติกับตัวละครบางตัวในฉากแรกๆ ไปส่งผลต่อวิธีที่ตัวละครตัวนั้นพูดกับเราในฉากหลังๆ และส่งผลต่อการได้รับความช่วยเหลือจากตัวละครนั้น เงื่อนงำที่เราคลี่คลายได้ในฉากก่อนหน้ามีผลต่อจำนวนตัวเลือกที่เรามีในฉากถัดๆ ไปหลังจากนั้น ถึงแม้ในส่วนนี้เกมจะทำได้ดีตามที่สัญญาไว้แต่จุดอ่อนอย่างหนึ่งก็คือเกมให้เราสลับไปเล่นระหว่างตัวละครสามตัว และตัวละครทั้งสามก็ไม่ได้มีเสน่ห์ให้เราอยากเอาใจช่วยหรือน่าติดตามขนาดนั้น ทำให้เราไม่ค่อยผูกพันกับตัวละครแต่ละตัวเท่าไหร่ ซึ่งจุดนี้ทำให้ความรู้สึกร่วมที่เรามีต่อการตัดสินใจต่างๆ ลดลงไปเยอะ เลยทำให้แม้ว่าเราจะสามารถกลับมาเล่นเกมอีกหลายๆ ครั้งเพื่อดูผลลัพธ์ของการตัดสินใจต่างๆ ให้ครบ ซึ่งอาจใช้เวลาได้ถึง 40 ชั่วโมง ก็กลับกลายเป็นว่าเล่นจบเพียงรอบเดียวก็พอแล้ว ไม่ได้มีแรงจูงใจให้เล่นต่อ แต่ทั่งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้เล่นด้วย สำหรับผมที่ไม่ได้ชอบเนื้อเรื่องเกมนี้เป็นพิเศษ รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนเรื่องการเหยียดชาติหรือเผ่าพันธ์ุมาปรับใช้กับแอนดรอยด์ เล่นเพียงรอบเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่กับคนที่ติดใจเรื่องราวของเกมนี้ก็อาจใช้เวลาไปกับเกมนี้ได้อีกนาน สรุปคะแนน: (7.5/10) Detroit พัฒนารูปแบบการเล่นที่มีเอกลักษณ์ของค่าย Quantic Dream ได้อย่างที่ต้องเรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาแล้ว แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้เกมก่อนหน้าของค่ายออกมาสนุกมากๆ อย่างเนื้อเรื่องนั้นเกมนี้ทำออกมาได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นักสำหรับผม เลยทำให้ต้องหักไปหลายคะแนน โดยเฉพาะเมื่อคุ้นเคยกับการเล่นเกมของค่ายนี้อยู่แล้ว แต่กับคนที่ไม่เคยเล่นเกมของค่ายนี้มาก่อนน่าจะสนุกกับการเล่นเกมรูปแบบนี้เป็นครั้งแรก และเกมยังมีฉากที่น่าประทับใจบางฉากที่ทำได้ดีจริงๆ และหาจากเกมอื่นไม่ได้ด้วย ถ้าไม่ได้ชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่องหรือเกมของค่ายนี้เป็นพิเศษก็อาจผ่านๆ ไป แต่กับคนที่ไม่เคยเล่นเกมของค่ายนี้ก็น่าลองหามาเล่นดู เพราะถ้าชอบเนื้อเรื่องของเกมนี้ขึ้นมาด้วยแล้วก็น่าจะชอบเกมนี้ได้ไม่ยาก ดูรีวิวตัวเต็มแบบวิดีโอได้ที่นี่เลย
24 May 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Detroit: Become Human"
10 เกม PC/Console น่าเล่นประจำเดือนธันวาคม 2019
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2019 แล้ว จะเห็นได้ว่าวันเวลาได้ผ่านไปเร็วเหลือเกินรู้ตัวอีกทีชีวิตของเราก็ได้ก้าวข้ามมาแล้วอีกหนึ่งปี ในวงการเกมก็เช่นกันเกมต่าง ๆ ก็ยังคงทยอยออกมาให้เราได้เล่นกันอย่างมากมาย แม้ว่าเกมของเดือนนี้จะไม่เด่นเหมือนกับเดือนอื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีเกมเด็ด ๆ ให้เราได้เลือกเล่น วันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอแนะนำเกมน่าเล่นประจำเดือนธันวาคม 2019 ให้เพื่อน ๆ ได้หามาลองเล่นกัน 1.Arise: A simple story ( 3 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4 เปิดมาเกมแรกกับเกม Arise เกมที่ว่าด้วยเรื่องราวการเดินทางในห้วงอารมณ์ของคุณตาท่านหนึ่ง ระหว่างโลกแห่งความรักและการสูญเสีย ที่ชูจุดเด่นด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและงานศิลป์ในเกมที่เน้นไปยังการสื่ออารมณ์ระหว่างการเล่น ใครที่ชอบเกมแนวอาร์ทและดนตรีไพเราะขับกล่อมในวันหยุดยาว ไม่ควรพลาดเกมนี้อย่างเด็ดขาด 2. Halo: The Master Chief Collection (3 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : Xbox One, PC สุดยอดซีรีส์เกมแนว FPS ที่เดิมเป็น Exclusive ของทาง Microsoft คงหนีไม่พ้นเกม Halo ในตอนนี้ได้เดินทางมาถึงมือของเหล่าผู้เล่นชาว PC แล้ว โดยตัวเกมมาในรูปแบบของ The Master Chief Collection ที่มีให้เราเล่นตั้งแต่ภาค Halo: Reach ไปจนถึงเกม Halo 4 เลยทีเดียว แม้ว่าเกมจะเก่าแล้วแต่หากเสพความสนุกจากเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว 3.SaGa: Scarlet Grace: ambitions (3 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4, Nintendo Switch ,PC,  iOS, Android SaGa: Scarlet Grace: ambitions หลังจากที่วางจำหน่ายเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ในที่สุดก็มีเวอร์ชันภาษาอังกฤษมาให้เราได้เล่นเสียที โดยตัวเกมเป็นเกมแนว RPG ที่มีกราฟิกสวยงามและมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม นอกจากนี้ตัวเกมยังเตรียมลงมือถืออีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสบายมาก ๆ เลยสำหรับเกมนี้ 4.Everreach: Project Eden (4 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4  ,PC ,Xbox One ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจับตามองมาก ๆ สำหรับ Everreach: Project Eden เกมแนว Action - RPG ที่ได้มือเขียนบทของเกม Mass Effect ทั้งสามภาคมาเขียนบทของเกมให้ โดยเตัวเกมจะให้เราสำรวจโลกของดวงดาวที่มีชื่อว่า Eden บ้านของเอเลี่ยนที่น่าค้นหา รวมถึงระบบเกมการเล่นที่หลากหลายและออกแบบมาเพื่อเล่นกับเมาส์และคีย์บอร์ดโดยเฉพาะในเวอร์ชัน PC ทำให้เกมนี้น่าจับตาเป็นอย่างมาก 5.Darksiders Genesis (5 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PlayStation 4 , Nintendo Switch ,PC ,Xbox One Darksiders Genesis เกมแนว Action - RPG สุดมันจากทางทีมงาน Airship Syndicate ที่เป็นตัวเกมภาค spin-off ของซีรีส์ Darksiders ภาคหลัก โดยจุดเด่นของตัวเกมคือการเป็นเกมที่จัดเต็มในเรื่องของความเป็น Action - Hackn Slash ที่มีกราฟิกที่สวยงามและการต่อคอมโบที่เร้าใจ นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับการเล่นแบบ Co-Op อีกด้วย สาวก Darksiders ไม่ควรพลาด 6.Star Ocean First Departure R (5 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 STAR OCEAN First Departure R คือตัวเกมภาค Remaster ของเกม STAR OCEAN First Departure เกมแนว JPRG บนเครื่อง PSP ที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะเคยสัมผัสมาแล้ว โดยรอบนี้ตัวเกมได้มีการปรับปรุงหลาย ๆ ส่วนให้ดีกว่าเดิมเช่น การอัปสเกลภาพในรูปแบบของ Full - HD , ปรับปรุง Mechanic ของการต่อสู้ใหม่ รวมถึงเสียงพากย์ที่สามารถสลับได้ระหว่างเสียงภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นได้อย่างอิสระ ใครอยากจะลองสัมผัสกับเกม JPRG ที่ดีเกมหนึ่งก็ลองเกมนี้เลย 7.Counter Terrorist Agency (5 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม : PC Counter Terrorist Agency คือเกมที่ให้เราสวมบทบาทเป็นหน่วยข่าวกรองในการต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก โดยเราจะต้องทำการสืบค้นข้อมูล บริหารองค์กรในการรับมือกับการก่อการร้ายจากทั่วทุกมุมโลกและลงมือก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยสำหรับเกมนี้ 8.Mosaic (6 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 , Nintendo Switch ,PC ,Xbox One Mosaic ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่อินดี้ที่น่าสนใจ โดยตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวของตัวเอกที่อยู่ในเมืองที่แสนจะจำเจและน่าเบื่อจนเราไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิต แต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างก็ได้เกิดขึ้นในชีวิตเขาและได้เปลี่ยนสิ่งที่เขารับรู้ไปตลอดกาล 9. Detroit: Become Human (12 ธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PC สุดยอดเกม Exclusive จากทางฝั่ง PlayStation 4 ที่ในตอนนี้ได้เดินทางมาถึงเกมเมอร์ฝั่ง PC แล้วกับ Detroit: Become Human เกมแนว Action-adventure game จากทีมงาน Quantic Dream ที่ว่าด้วยเรื่องราวของหุ่น Android 3 ตัวที่โชคชะตาและการกระทำของผู้เล่นได้สร้างเรื่องราวของพวกเขาขึ้นมา ตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม พร้อมกับฉากจบที่หลากหลาย หากใครที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้ถือว่าพลาดอย่างแรง 10.Lost Words: Beyond the Page (ภายในเดือนธันวาคม 2019) แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 , Nintendo Switch ,PC ,Xbox One ปิดท้ายกันด้วยเกม Lost Words: Beyond the Page เกมอินดี้คุณภาพดีเจ้าของรางวัลหลากหลายสาขาจากเวที Game Connection โดยว่าด้วยเรื่องราวของเกมจะถูกนำเสนอด้วยรูปแบบที่น่าสนใจ ภายใต้งานศิลป์ที่สดใสและโลกที่มีชีวิตชีวา ยิ่งได้ Rhianna Pratchett นักเขียนผู้อยู่เบื้องหลังเนื้อเรื่องของเกมดัง ๆ อย่าง Mirrors Edge , Tomb Raider , Rise of the Tomb Raider ยิ่งทำให้เกมนี้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเกมน่าเล่นประจำเดือนธันวาคม 2019 จะเห็นได้ว่าจะหนักไปทางด้านเกมอินดี้เป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงกระนั้นคุณภาพของเกมก็ไม่ได้แพ้เกมระดับ AAA อย่างแน่นอน ขอให้เพื่อนชาวเกมเมอร์มีความสุขกันตลอดเดือนสุดท้ายของปี 2019 กันครับผม
28 Nov 2019
Detroit: Become Human เปิดเผยวันวางจำหน่ายบน PC แล้ว!
Quantic Dream ผู้สร้างเกมชื่อดังแนวเดียวกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Beyond Two Soul หรือ Heavy Rain ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมาว่าเกมใหม่ล่าสุดที่ได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมอย่าง Detroit: Become Human จะถูกพอร์ตมาลงให้กับเครื่อง PC ปีนี้ วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้เปิดเผยวันวางจำหน่ายของตัวเกมเวอร์ชั่น PC แล้วครับ! Detroit: Become Human เวอร์ชั่น PC จะถูกวางขายวันที่ 12 ธันวาคมนี้บน Epic Games Store เนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึงปี 2038 ซึ่งเป็นยุคที่ Android เริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย จนนำไปสู่ความขัดแย่งต่างๆ ในสังคม โดยเกมจะเล่าถึงมุมมองของทางฝั่ง Android ที่แตกต่างกันมากๆ 3 คน คือ Kara, Connor และ Markus แต่ละคนก็จะมีเรื้องราวที่แตกต่างกันไปนั้นเอง สิ่งที่คาดหวังจะได้ก็คือกราฟิกที่น่าจะสวยขึ้นอย่างมากแน่ๆ ของเกมนี้ นอกจากนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อย Trailer ตัวใหม่ของเวอร์ชั่น PC ออกมาแล้วด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Detroit: Become Human วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PS4 และกำลังจะวางจำหน่ายบน PC วันที่ 12 ธันวาคมนี้ครับ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
20 Nov 2019
หัวหน้า Quantic Dream ออกความเห็นเรื่องใช้ดาราทำการตลาดให้เกม
ปัจจุบันการทำเกมและใช้ Motion Capture เริ่มเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ ในธุรกิจพัฒนาเกม ทั้งนี้ก็มีหลายคนที่มองว่าการใช้นักแสดงดังจาก Hollywood มาแสดงในเกมหรือพากย์เสียงมันเป็นแค่วิธีทางการตลาดเท่านั้น แต่หัวหน้าของ Quantic Dream เข้าไม่ได้คิดอย่างนั้น David Cage ได้กล่าวว่า "มันไม่ใช้แค่การตลาดอีกต่อไปแล้ว เมื่อนักแสดง Hollywood สามารถดึงอารมร์ในด้านต่างๆ ของตัวละครออกมาได้ดีมากกว่าใช้ CG มันก็ทำให้คุณภาพของเกมสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นผมไม่คิดว่าการเอานักแสดงมาเป็นส่วนหนึ่งของเกมมันเป็นเพียงการตลาดเลยแม้แต่นิดเดียว" อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีนักแสดงเริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามามีส่วนในการพัฒนาเกมมากขึ้นแล้วละก็ อาจเป็นการยกระดับของการพัฒนาเกมไปอีกขึ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
11 Sep 2019
NetEase เข้าไปมีหุ้นส่วนเล็กๆ ในทีมพัฒนาผู้สร้าง Detroit: Become Human
Quantic Dream เป็นหนึ่งในทีมพัฒนาที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการสร้างเกมเพลย์เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก ซึ่งแต่ละเกมก็ได้รับคำชมอยู่มากมายพอสมควร อย่าง Heavy Rain หรือ Detroit: Become Human แต่ก็ต้องบอกว่าเกมของค่ายนี้นั้นจะขึ้นตรงเฉพาะกับ PS4 เท่านั้น แต่ดูเหมือนภายในองค์กรอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะล่าสุดทางผู้พัฒนาได้ประกาศผ่านทาง VentureBeat ว่าทางบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง NetEase ได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนเล็กๆ ของบริษัทนี้ และต่อไปตัวเกมจะลงให้กับทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว ว่าทาง Sony และ Quantic Dream อาจจะไม่ได้มีการสนับสนุนกันแล้วหรือเปล่า ? หลังจากทำงานร่วมกันมามากกว่า 12 ปี และการร่วมงานใหม่ครั้งนี้ก็ยังคงภายใต้การทำงานของไดเร็คเตอร์อย่างคุณ  David Cage และ Guillaume de Fondaumiere เช่นเดิม โดยคุณ Ethan Wang รองประธานของ NetEase ได้กล่าวไว้ว่า "ด้วยการโฟกัสที่แข็งแรงของการพัฒนาภายในบริษัท เรากำลังมองหาพันธมิตรที่เติมเต็มในส่วนของพัฒนาและสร้างเกมใหม่อย่างต่อเนื่อง ความเป็นเลิศของ Quantic Dream ในการเล่าเรื่องแบบอินเทอร์แอคทีฟและความเชี่ยวชาญอันมีค่า ที่สร้างขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง เรามีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Quantic Dream และเราหวังว่าจะสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่เหลือเชื่อสำหรับผู้เล่นทั่วโลก” ทางไดเร็คเตอร์และ CEO ของ Quantic Dream อย่างคุณ Divid Cage ได้กล่าวว่า “ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมเกมจะต้องผ่านการวิวัฒนาการที่สำคัญในไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ที่กำลังจะมา โมเดลธุรกิจใหม่ที่ต้องสำรวจ และวิธีการใหม่ในการเล่น เราต้องการให้ Quantic Dream มีบทบาทสำคัญในอนาคตที่น่าตื่นเต้นนี้และการมี NetEase อยู่เคียงข้างเราในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้เราขยายวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ของเราและพัฒนาบริษัทให้มีศักยภาพสูงสุด ซึ่งทาง NetEase เข้าใจเรา และเขาหลงไหลในเกมคุณภาพสูงและความทะเยอทะยานของเราในสตูดิโอ" และสุดท้ายคุณ Guillaume de Fondaumiere ไดเร็คเตอร์และ Co-CEO ของ Quantic Dream ก็ได้กล่าวปิดท้ายว่า "เราประทับใจในวิสัยทัศน์ของ NetEase ความมุ่งมั่นในคุณภาพและนวัฒกรรมของพวกเขา และบันทึกความรู้ที่น่าประทับใจของพวกเขาในการประดิษฐ์ และดำเนินการเกี่ยวกับเกมมากมายที่นิยมทั่วโลก การร่วมมือกับ NetEase จะเปิดโอกาสใหม่ให้กับสตูดิโอของเราและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของเราในฐานะผู้บุกเบิกและนักประดิษฐ์” ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าก้าวที่สำคัญนี้ของทาง Quantic Dream จะออกมาแบบไหน
30 Jan 2019
Detroit: Become Human อาจจะมี DLC ของ Conner
หลังจากเมื่อต้นปีทางผู้พัฒนาค่าย Quantic Dream ทีมสร้างเกม Detroit: Become Human ได้โพส Twitter เป็นนัยๆ ว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้และรอให้ทุกท่านติดตาม ซึ่งล่าสุดเหมือนจะมีข่าวดีเพิ่มขึ้นแล้วเนื่องจากผู้ก่อตั้งของ Quantic Dream อย่างคุณ David Cage ได้ออกมาสวัสดีปีใหม่ทาง Twitter และได้โพสรูปของตุ๊กตา Conner หุ่น Android ตัวหลักในเกม Detroit: Become Human และเขียนกำกับไว้ว่า "เรามีแผนที่จะทำให้ปี 2019 มันน่าตื่นเต้นด้วยเช่นกัน" HAPPY NEW YEAR TO ALL! We wish you all a wonderful New Year with a lot of love, friends, laughs, and of course a lot of fun! 2018 has been an amazing year for Quantic Dream, thanks to you. We have plans to make 2019 very exciting too!#DetroitBecomeHuman #ConnorArmy pic.twitter.com/I9e11CTPQY — David Cage (@David__Cage) 4 มกราคม 2562 ซึ่งถ้าให้เดามันอาจจะเป็น DLC ของตัวละคร Conner ในเกมนี้ก็เป็นได้ โดยเกม Detroit: Become Human เป็นเกมที่มียอดขายมากถึง 2 ล้านชุด ถึงแม้ว่าอาจจะไม่เยอะเท่ากับเกม AAA อื่นๆ แต่ก็ถือว่ามากพอที่จะทำให้โปรเจคนี้ไปต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นการคาดการณ์ก็อาจจะไม่ตรงก็เป็นได้ โดยเกมนี้วางจำหน่ายเฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้น ที่มา Playstationlifestyle
07 Jan 2019
Quantic Dream แง้ม !! เราจะกลับมาในเร็ววันพร้อมข่าวดี
นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของทางทีมผู้พัฒนา Quantic Dream ที่ได้สร้างเกมยอดเยี่ยมอย่าง Detroit: Become Human ออกมา ซึ่งล่าสุดจากความสำเร็จนี้ทำให้ทางทีมผู้พัฒนาอาจจะมีเกมใหม่ในเร็ววัน !! เนื่องจากล่าสุดใน Twitter ของทาง Quantic Dream ได้ออกมาโพสข้อความขอบคุณผู้คนต่างๆ ที่ทำให้ปี 2018 นี้เป็นปีที่น่าเหลือเชื่อและยังยืนยันว่าพวกเขาจะกลับมาในเร็วๆ วัน "ขอบคุณทุกๆ ท่านสำหรับปี 2018 ที่น่าเหลือเชื่อนี้ เราจะกลับมาในเร็ววันพร้อมกับข่าวดี ขอให้ทุกๆ ท่านอยู่ดีมีสุขแบ่งปันความชอบและความรักของทุกท่าน !! รอดูได้เลย" Thank you all for a FABULOUS year 2018! We shall be back soon with some great news. Stay well and happy, share your passion and love! Stay tuned... pic.twitter.com/T7bxM3WsmG — QUANTIC DREAM #DetroitBecomeHuman (@Quantic_Dream) 31 ธันวาคม 2561 โดยเกม Detroit: Become Human เป็นเกมแนวเนื้อเรื่องที่เล่าเรื่องของเหล่าหุ่นแอนดรอยด์ที่มีความคิดจิตใจเหมือนมนุษย์ โดยเราสามารถเลือกตอบคำถามที่จะมีผลในอนาคต โดยเกมนี้ได้รับการเสนอเข้าชิง Game of the Year ในงาน The Game Awards 2018 อีกด้วย ตัวเกมลงเฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้นรวมถึงเกมในค่าย Quantic Dream อื่นๆ ก็จะเป็นแนวเดียวกันอย่างเช่น Beyond: Two Souls และ Heavy Rain เป็นต้น
02 Jan 2019
Detroit: Become Human ขายเกมไปได้ถึง 2 ล้านชุดแล้ว
ตอนแรกดูเหมือนว่าจะกระท่อนกระแท่นเหมือนกันสำหรับ Detroit: Become Human เกมแนวเนื้อเรื่องเลือกตอบจากทางผู้พัฒนา Quantic Dream ที่ตอนแรกดูเหมือนว่ายอดขายเกมจะไม่ตรงตามเป้าเสียเท่าไร แต่ล่าสุดทางผู้พัฒนาได้ประกาศออกมาแล้วว่าเกมนี้มียอดขายถึง 2 ล้านชุดเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เยอะถ้าให้เปรียบกับเกม AAA อื่นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ได้กำไรแน่นอน โดยเกมนี้มีข่าวว่าใช้ทุนสร้างประมาณพันล้านบาท ซึ่งกำไรที่ได้จากการขายเกมนี้น่าจะอยู่ราวๆ 3 พันล้านบาทนั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=YtPmIBqRwQU Detroit: Become Human เรื่องราวจะอยู่ในโลกอนาคตที่หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหุ่นยนต์พวกนี้มีความคิด มีชีวิตจิตใจ ซึ่งเนื้อเรื่องของตัวเกมจะอยู่ที่เราเลือกตอบคำถามต่างๆ และจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องในอนาคต ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนที่เล่นเกมนี้จะมีเนื้อเรื่องไม่เหมือนกัน โดยตัวเกมวางจำหน่าย Exclusive เฉพาะเครื่อง PS4 ราคาราวๆ 60$
13 Dec 2018
ผู้กำกับ Detroit: Become Human เผยตารางเนื้อเรื่องอันโคตรซับซ้อนของเกม
เพื่อนๆ ทุกคนที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นกว่า 1.5 ล้านคนที่ได้เล่นเกม Detroit: Become Human จะต้องเข้าใจว่าเนื้อเรื่องของเกมแม่งโคตรซับซ้อนขนาดไหน มีตัวเลือกแตกแขนงออกไปได้กี่ทางบ้าง แน่นอนว่าเกมที่เนื้อเรื่องซับซ้อนและแตกแขนงมากมายขนาดนี้ย่อมเป็นบททดสอบที่หินมากๆ สำหรับคนที่จะต้องเขียนหรือกำกับ ถ้าอยากรู้ว่าซับซ้อนขนาดไหน ให้ดูภาพในทวิตเตอร์ล่าสุดของผู้กำกับเกมอย่างคุณ David Cage ที่เปิดเผยตารางความเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องของเกม ซึ่งดูแล้วก็ได้แต่ทึ่งว่าดูกันยังไงให้รู้เรื่อง... Ever wondered what the structure of a scene by Quantic looks like? Here are two charts showing what a nightmare our games are to write, script, shoot and test... but this is also what makes them special! Props to our scripters ;-)#DetroitBecomeHuman#ConnorArmy pic.twitter.com/LgR4yLH4db — David Cage (@David__Cage) August 28, 2018 ปรบมืออีกครั้งให้คุณ David Cage และทีมบททุกคนคร้าบ  
29 Aug 2018
บทสัมภาษณ์สุดพิเศษคุณ Bryan Dechart และ Amelia Rose Blaire จาก Detroit: Become Human
คุณคิดว่าอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของ Detroit: Become Human? Bryan: ก็เพราะแฟนๆ ชาวไทยนั่นแหละ! (ขำ) เอาจริงๆ ผมคิดว่ามันคือความหลากหลายของเกม ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถนำเนื้อเรื่องของกันและกันมาแลกเปลี่ยนกันได้ว่าประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันแค่ไหน มันเหมือนว่าเกมให้โอกาสผู้เล่นได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง มันอาจจะไม่ใช่สูตรการสร้างเกมที่ใหม่หรือแตกต่างกับเกมหลายๆ เกมที่ผ่านมา แต่มันเหมือนเราเอากล่องของเล่นเทลงบนโต๊ะแล้วเล่นกับทุกอย่างที่เราชอบพร้อมๆ กันในเกมเดียว   ด้วยเทคโนโลยี Motion Capture ที่ก้าวหน้าไปมากสามารถทำให้เราบันทึกทั้งเสียงและร่างกายของนักแสดงไปไว้ในเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้น การแสดงในลักษณะนี้าสำหรับการ Motion Capture มีความท้าทายหรือแตกต่างกับการแสดงหนังหรือภาพยนตร์แค่ไหน อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด Amelia: หนึ่งในความแตกต่างใหญ่ๆ ระหว่างการแสดงสำหรับรายการทีวีหรือภาพยนตร์และการแสดงสำหรับ Motion Capture คือการแสดงสำหรับ Motion Capture จะไม่มีฉาก ไม่มีเสื้อผ้าหน้าผมใดๆ ทำให้นักแสดงต้องใช้จินตนาการสูงมากๆ ในการแสดงออกมาให้สมจริง แต่สิ่งที่ได้คือเราสามารถถ่ายได้หลายฉากมากขึ้นต่อวัน ซึ่งก็เหนื่อยเหมือนกัน Bryan: ความแตกต่างอีกอย่างคือเรื่องความยืดหยุ่นของเกม เพราะผู้เล่นจะเป็นคนกำหนดว่าตัวละครจะตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างไร ฉะนั้นการถ่ายบทสนทนาซักฉากหนึ่งจะถ่ายทางเลือกทั้งหมดที่สามารถเลือกได้ต่อๆ กัน ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะส่งบทมาให้ผม แล้วผมก็จะตอบตามทางเลือกที่หนึ่งแล้วเว้นว่างซักครู่ แล้วก็ตอบแบบทางเลือกที่สองแล้วก็หยุด แล้วก็ทางเลือกที่สามไปเรื่อยๆ พอครบทุกทางเลือกแล้วคุณจึงค่อยตอบบทผมอีกที ฉะนั้นอาจจะพูดได้ว่าการแสดงหนังหรือทีวีจะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เราเรียกการถ่ายแบบนี้ว่าเป็นวงจร (cycle) คือการตอบบทแบบนึง หยุดพักเพื่อเซ็ตอารมณ์ใหม่ตามทางเลือกอีกทาง แล้วค่อยแสดงต่อ ซึ่งเป็นวิธีการแสดงที่ค่อนข้างแปลกสำหรับนักแสดงทั่วไป หนึ่งในฉากของคอนเนอร์ที่เป็นขวัญใจคนไทยคือฉากที่คอนเนอร์ตบหน้าแฮงค์เพื่อปลุกเขา ซึ่งได้ข่าวว่าเป็นสิ่งที่คุณคิดขึ้นมาเองสดๆ ในขณะถ่ายทำด้วย เล่าเรื่องตรงนี้ให้ฟังหน่อย Bryan: ขณะเวลาถ่ายทำ David Cage (ผกก.) บอกผมเสมอว่า เวลาคอนเนอร์จะทำอะไรซักอย่าง เขาจะเลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดเสมอ อย่างการเปิดประตู มนุษย์ทั่วไปอาจจะมีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่าเยอะในการเอื้อมไปจับและบิดกลอนประตู ในที่สำหรับคอนเนอร์จะเลือกขยับอย่างสูญเปล่าน้อยที่สุดเป็นต้น ทีนี้พอถึงเวลาที่ผมต้องปลุกแฮงค์ ผมก็เลยใช้วิธีที่เร็วและตรงไปตรงมาที่สุดคือตบหน้าเข้าให้ซักที ซึ่งดูจะเป็นสิ่งที่คอนเนอร์จะทำจริงๆ ผมจำได้ว่าคุณ David Cage ก็เคยติงๆ ว่าตบแรงไปหน่อย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคอนเนอร์ตัวจริงก็คงทำแบบเดียวกับผมนี่แหละ   คุณเข้ามาร่วมเป้นส่วนหนึ่งของ Detroit: Become Human ได้อย่างไร Bryan: ผมต้องมาแคสติ้งบทสำหรับ Detroit: Become Human หลายครั้งมาก โดยปกติการแคสติ้งสำหรับหนังหรือทีวีอาจจะทำแค่สองถึงสามรอบ แต่สำหรับ Detroit ผมต้องมาแคสติ้งถึง 5-6 รอบก่อนจะผ่าน โดยการแคสติ้งครั้งแรกผมจำได้ว่าเป็นบทจากตัว Kara Tech Demo ที่ค่ายปล่อยออกมาเพื่อแนะนำ Engine เกมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ค่ายใช้ โดยเนื้อเรื่องของ Tech Demo ตัวนี้ได้กลายมาเป็น Detroit ในภายหลัง ซึ่งบทที่ผมได้รับเป็นบทตอนที่ Kara ถูกปลุกให้ตื่นและต้องอ้อนวอนกับเหล่ามนุษย์ให้เธอได้มีชีวิตต่อไป   ได้ข่าวมาว่าบทพูดของเกม Detroit: Become Human มีความยาวรวมกว่า 2000 หน้า คุณมีวิธีอะไรในการเตรียมตัวเพื่อเข้าฉากบ้าง Bryan: (ถอนหายใจเฮือกใหญ่) ผมรู้มาจากทีมงานว่าบทพูดของคอนเนอร์เป็นบทที่แตกเส้นสายเหตุการณ์ได้หลากหลายที่สุด ผมจึงใช้สัญลักษณ์ของเพลย์สเตชั่น (สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม X O) เพื่อช่วยจำว่าบทนี้ต่อมาจากบทไหน นอกจากนี้ผมยังใช้สีต่างๆ เพื่อจุดประสงค์เดียวกันด้วย เพราะบทของคอนเนอร์มีทางเลือกที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งบทที่เป็นเครื่องจักรเต็มตัวและบทที่เป็น Deviant (หุ่นที่มีความรู้สึก) สิ่งที่ผมทำคือผมสร้างวงล้อสีเหมือนที่เห็นใน Photoshop แล้วไปทาบลงบนตารางชั่ว-ดีของเกม DnD (Dungeons and Dragons หรือเกม RPG กระดาษที่โด่งดัง) เพื่อช่วยตัวเองจำว่ากำลังแสดงเส้นเรื่องไหนอยู่ จะได้คงอารมณ์จากฉากที่แล้วได้ถูก Amelia: Bryan เป็นคนที่มีวความจำดีมากๆ อีกด้วย การที่เค้าสามารถจำบทพูดทั้งหมดของตัวเองได้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ และฉันเองก็จะช่วยเขาท่องบทผ่านสไกป์ด้วยตอนที่เขาไปถ่ายทำที่กรุงปารีส ในขณะที่ฉันถ่ายทำอยู่ที่ ลอส แองเจลีส แม้บางทีเวลาอาจจะไม่ตรงกัน เช่นเป็นเวลากลางวันของฉันแต่ดลางคืนของเขา แต่เราก็สไกป์กันเป็นประจำ Bryan: นี่แหละครับโค้ชการแสดงของผม (หัวเราะ) ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นดาราดังจากทีวีหรือภาพยนตร์เริ่มหันเหมาแสดงในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเราจะเห็นอะไรแบบนี้มากขึ้นจนเป็นปกติไหมในอนาคต Bryan: ผมมองว่าวีดีโอเกมมันคืออนาคตนะ เทคโนโลยีก็นับวันจะยิ่งเข้าถึงง่ายขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปคนก็จะสามารถใช้การ Motion Capture ได้หมด ไม่ใช่แค่หนังจากค่ายใหญ่ๆ เท่านั้นที่ใช้ได้ แต่ทีวี หรือกระทั่งนักพัฒนารายย่อยและนักเรียนนักศึกษาด้วย ทุกคนจะสามารถใช้เทคโนโลยีที่เราใช้สำหรับ Detroit ได้ และยิ่งมีคนใช้เยอะก็จะยิ่งเกิดการพัฒนาที่เร็วขึ้นด้วย ผมยังเคยเห็นเทคโนโลยีที่สามารถจับการเคลื่อนไหวของคนและใช้ควบคุมหุ่นโมเดล CG ได้แบบ real-time เลย ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะเปิดทางเลือกให้ผู้สร้างและผู้เล่นมากขึ้น ทั้งในด้านการดำเนินเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ ถ้าคุณต้องให้คำแนะนำกับเด็กหรือนักเรียน/นักศึกษาที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดง Motion Capture สำหรับเกม คุณจะให้คำแนะนำอะไรบ้าง Bryan: จงศึกษาให้หนักๆ ในเรื่องการใช้เสียงและการเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะในการถ่ายทำหนังหรือทีวีเรารู้ว่ามันมีความจำกัดของเฟรมกล้อง ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถโฟกัสเฉพาะจุดที่กล้องเห็นได้ ในขณะที่การแสดงสำหรับเกมจะเป็นการอัดทั้งการเคลื่อนไหวของใบหน้าและร่างกายเราจากทุกมุมตลอดเวลาแบบ 360 องศาเลย คล้ายๆ กับการแสดงบนละครเวทีมากกว่า ที่เราต้องรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายตัวเองตลอดเวลาในทุกฉาก Amelia: ฉันขอเสริมนืดนึงว่าการแสดงสำหรับเกมมีความยากและกดดันกว่าหนังและทีวีมาก เพราะต้องคำนึงถึงทุกส่วนของร่างกายตลอดเวลาเพื่อสื่ออารมณ์ให้ถึงผู้เล่น ถ้าในอนาคตอันใกล้มีหุ่นแอนดรอยด์แบบเดียวกับใน Detroit ออกวางจำหน่าย คุณจะซื้อมาใช้เองซักตัวไหม Bryan: (หัวเราะแหยๆ) โอย ตายละ คุณอยากจะรับแทนไหม (ส่งคำถามให้ Amelia) Amelia: เอิ่ม… (ขำ) มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ เพราะหลังจากที่ได้เล่น Detroit มาสัญชาตญาณแรกของฉันคือการตอบว่า ‘ไม่’ แต่ในขณะเดียวกันก็คงจะดีเนอะถ้าเรามีคนมาช่วยเราล้างจานซักผ้า หรือทำงานบ้านที่เราไม่อยากทำ แต่ฉันคงทนรู้สึกผิดไม่ไหวเหมือนกัน คงยอมปล่อยให้หุ่นไปมีชีวิตของมัน
21 Aug 2018
ชมภาพเกม Detroit: Become Human เวอร์ชั่น 16 bit จากรัซเซีย!
ถ้าพูดถึงเกมที่กระแสแรงที่สุดในช่วงนี้ หนึ่งในเกมที่น่าจะอยู่ในใจหลายๆ คนคงหนีไม่พ้น Detroit: Become Human เกมจากค่าย Quantic Dream ที่วางจำหน่ายกันไปแบบ Exclusive ในเครื่อง PS4 ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เกมเมอร์หลายๆ คนที่ยังไม่มี PS4 อาจจะไม่มีโอกาสได้เล่นเกมนี้ แต่ปัญหานั้นกำลังจะหมดไปเมื่อผู้พัฒนานิรนามจากรัซเซียได้เริ่มสร้างเกม Detroit ใหม่ในเวอร์ชั่น 16 Bit! Enthusiasts from Russia make a demake of the first chapter of #DetroitBecomeHuman.The project has working title Detroit: Become Pixel. The project is planned to be released on a PC and, possibly, on Android. There is no exact release date. pic.twitter.com/NsLKiyDZxS— Quantic Dream Games (@qdream_ru) June 27, 2018 โดยเกมเวอร์ชั่นนี้กำลังพัฒนาใต้ชื่อ Detroit: Become Pixel ซึ่งมีแผนว่า(อาจ)จะวางจำหน่ายใน PC และ Android ในอนาคต งานนี้อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่มี PS4 แต่อยากลองเกมสุดฮิตอย่าง Detroit กะเค้าบ้าง
29 Jun 2018
รีวิว Detroit: Become Human
Detroit ถือเป็นเกมลำดับที่สี่จากค่าย Quantic Dream ที่เป็นแนว Interactive Drama-Action Adventure คือเป็นเกมที่มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อเรื่องและการนำเสนอด้านภาพยนตร์เป็นหลัก โดยเราจะต้องคอยกดปุ่มเพื่อเลือกการกระทำของตัวละคร คล้ายๆ กับเรากำลังดูหนังแล้วเราสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับฉากที่เกิดขึ้นต่อไปได้ โดยไม่ว่าเราจะตัดสินใจแบบไหนก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิด ทุกๆ การตัดสินใจของเราจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ทำให้เกิดฉากจบได้หลายแบบ และเมื่อรวมกับผลลัพธ์ยิบย่อยตลอดทั้งเกมแล้ว ก็สามารถพูดได้อีกอย่างว่าการเล่นเกมของค่ายนี้เปรียบได้กับการดูหนังที่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นในโลก เพราะผู้เล่นคนอื่นๆ ย่อมมีวิธีเล่นที่ไม่เหมือนกับเรา โดยเกมก่อนหน้านี้ของค่ายก็มีเกมที่ทำได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นักอย่าง Beyond: Two Souls มีเกมที่ทำได้ดีมากอย่าง Farenheit และเกมที่กลายเป็นหนึ่งในประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดในชีวิตของใครหลายคนอย่าง Heavy Rain จึงน่าสนใจว่าหลังจากหายไปนานหลายปี Detroit จะกลายเป็นหนึ่งในเกมชั้นเยี่ยมอีกเกมหนึ่งหรือไม่ เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องของเกม Detroit เกิดขึ้นในยุคอนาคต ในโลกที่หุ่นยนต์แอนดรอยด์ได้รับการพัฒนาจนมีลักษณะที่เหมือนกับมนุษย์ทุกประการ แต่มีความสามารถที่เหนือกว่ามนุษย์ในทุกๆ ด้าน แต่ถึงอย่างนั้นแอนดรอยด์เหล่านี้ก็เป็นเพียงหุ่นยนต์ ไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง เป็นได้เพียงทาสรับใช้ของมนุษย์เท่านั้น แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันดีคืนดีแอนดรอยด์เหล่านี้เกิดมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเองขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ต้องการเป็นทาสรับใช้ของมนุษย์อีกต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทาสรับใช้ที่มนุษย์สร้างขึ้นมานี้ต้องการเรียกร้องอิสรภาพของตัวเอง มนุษย์จะยอมรับให้แอนดรอยด์เหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับตนหรือไม่ และแอนดรอยด์เหล่านี้จะมีวิธีการเช่นไรในการเรียกร้องอิสรภาพให้ตัวเอง ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และแอนดรอยด์คือประเด็นหลักของเกมนี้ ในเกมเราจะได้เล่นสลับเป็นตัวละครแอนดรอยด์สามตัว ได้แก่ Connor แอนดรอยด์ฝั่งตำรวจที่มีหน้าที่สืบและจัดการกับเหตุการณ์แอนดรอยด์ที่ผิดปกติ ซึ่งมีปัญหาเข้ากันไม่ได้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็น Connor เป็นเพียงเครื่องจักร แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหากับแอนดรอยด์พวกเดียวกันที่กล่าวโทษว่า Connor ทรยศพวกพ้องตนเอง Markus ผู้นำการปฏิวัติเรียกร้องอิสรภาพของแอนดรอยด์ ซึ่งต้องเลือกระหว่างการเรียกร้องสันติภาพอย่างสันติที่ดูไร้หนทาง กับการใช้กำลังที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ที่กดขี่และใช้ความรุนแรงกับเหล่าแอนดรอยด์ และ Kara แอนดรอยด์สาวที่พาเด็กสาวหลบหนีจากพ่อผู้มีปมปัญหาในชีวิตและใช้ความรุนแรงกับลูกสาวตนเอง ซึ่งต้องคอยรอนแรมหาที่พักพิงและปกปิดความเป็นแอนดรอยด์เพื่อเอาตัวรอดท่ามกลางเหตุการณ์ความวุ่นวายที่มนุษย์ส่วนใหญ่ดูจะเป็นปฏิปักษ์กับแอนดรอยด์อย่างไม่เลือกหน้า เกมเพลย์ วิธีการเล่นของเกมจากค่ายนี้หลักๆ แล้วคือการกดปุ่มเพื่อตัดสินใจ เป็นการเลือกคำพูดหรือการกระทำของตัวละคร ซึ่งสิ่งที่เราเลือกแน่นอนว่าจะมีผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เราอาจเลือกวิธีพูดอย่างนุ่มนวลเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ อาจเลือกโกหก หรือใช้กำลัง แต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป และหลายๆ ครั้งเราจะมีเวลาให้ตัดสินใจไม่นาน ไม่เช่นนั้นตัวละครจะเลือกตัดสินใจโดยอัตโนมัติ เป็นการเพิ่มความลุ้นระทึกและทำให้การตัดสินใจของผู้เล่นมาจากสัญชาตญาณมากกว่าที่จะมาจากการคิดมากเพื่อเลือกตำตอบที่ดีที่สุด นอกจากการกดปุ่มแบบที่เราตัดสินใจแล้วก็ยังมีแบบที่ไม่ต้องตัดสินใจด้วย เช่นให้ตัวละครเดิน หยิบจับสิ่งของ มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัว และแบบที่ลุ้นระทึกขึ้นมาหน่อยก็เป็นในฉากต่อสู้ต่างๆ ที่เราต้องกดปุ่มที่ปรากฏให้ทันเพื่อให้ตัวละครหลบการโจมตีให้พ้น นอกจากนั้นวิธีการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเกมนี้คือการกดปุ่มให้ตัวละครแอนดรอยด์ที่เราบังคับใช้ความสามารถของแอนดรอยด์เพื่อสำรวจฉาก โดยเราจะเห็นว่ามีสิ่งไหนที่เราสำรวจได้บ้าง นอกจากนี้ตัวละคร Connor ที่ทำงานกับตำรวจจะมีวิธีการเล่นที่เพิ่มขึ้นมาคือการสำรวจเพื่อหาเบาะแส ซึ่งเมื่อเราหาได้ครบเราจะสามารถจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาหลักฐานสำคัญเพิ่มขึ้นได้ ในขณะที่ตัวละครนักปฏิวัติอย่าง Marcus จะมีความสามารถในการคำนวณความเป็นไปได้ของการตัดสินใจเพื่อเลือกเส้นทางที่ทำแล้วมีโอกาสสำเร็จแน่นอน วิธีการเล่นของเกมนี้น่าสนใจอยู่ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเกมดำเนินไปเรื่อยๆ การเล่นแบบนี้ก็กลายเป็นอะไรที่ค่อนข้างซ้ำซากจำเจ แม้จะมีช่วงที่ตื่นเต้นหน่อยอย่างเวลาที่ต้องกดปุ่มให้ทันในฉากที่มีแอคชั่นเยอะๆ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วการกดปุ่มของเกมนี้ก็เหมือนเป็นการกดปุ่มดูหนังที่มีความเป็นไปได้หลายอย่างเท่านั้นเอง เพราะแบบนี้ความสนุกของเกมเลยไปขึ้นอยู่กับว่าหนังที่ว่าทำออกมาได้ดีแค่ไหน ซึ่ง Detroit ก็ทำออกมาได้ดีพอใช้แต่ไม่ได้ดีขนาดนั้น  กราฟิก ในด้านของกราฟิกของเกมนี้มีทั้งส่วนที่ทำได้ดีมากและส่วนที่ดูธรรมดา สภาพแวดล้อมในเกมไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ ฉากต่างๆ และตัวละครทำได้ตามมาตรฐานของเกมในยุคนี้ แต่เกมมีจุดเด่นที่ฉากโคลสอัพของบรรดาตัวละครสำคัญที่ทำออกมาได้ดีจนรู้สึกราวกับว่าภาพที่ปรากฏเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพกราฟิกที่สร้างขึ้นมา การตัดสินใจ จุดขายเลยของเกมนี้ก็คือการที่เกมเคารพการตัดสินใจของผู้เล่น เกมมีผลลัพธ์หลากหลายแบบไว้รองรับการตัดสินใจที่ต่างกันของผู้เล่นแต่ละคน ซึ่งเกมทำออกมาได้ละเอียดอ่อนมาก ถึงขั้นว่าวิธีที่เราปฏิบัติกับตัวละครบางตัวในฉากแรกๆ ไปส่งผลต่อวิธีที่ตัวละครตัวนั้นพูดกับเราในฉากหลังๆ และส่งผลต่อการได้รับความช่วยเหลือจากตัวละครนั้น เงื่อนงำที่เราคลี่คลายได้ในฉากก่อนหน้ามีผลต่อจำนวนตัวเลือกที่เรามีในฉากถัดๆ ไปหลังจากนั้น ถึงแม้ในส่วนนี้เกมจะทำได้ดีตามที่สัญญาไว้แต่จุดอ่อนอย่างหนึ่งก็คือเกมให้เราสลับไปเล่นระหว่างตัวละครสามตัว และตัวละครทั้งสามก็ไม่ได้มีเสน่ห์ให้เราอยากเอาใจช่วยหรือน่าติดตามขนาดนั้น ทำให้เราไม่ค่อยผูกพันกับตัวละครแต่ละตัวเท่าไหร่ ซึ่งจุดนี้ทำให้ความรู้สึกร่วมที่เรามีต่อการตัดสินใจต่างๆ ลดลงไปเยอะ เลยทำให้แม้ว่าเราจะสามารถกลับมาเล่นเกมอีกหลายๆ ครั้งเพื่อดูผลลัพธ์ของการตัดสินใจต่างๆ ให้ครบ ซึ่งอาจใช้เวลาได้ถึง 40 ชั่วโมง ก็กลับกลายเป็นว่าเล่นจบเพียงรอบเดียวก็พอแล้ว ไม่ได้มีแรงจูงใจให้เล่นต่อ แต่ทั่งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้เล่นด้วย สำหรับผมที่ไม่ได้ชอบเนื้อเรื่องเกมนี้เป็นพิเศษ รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนเรื่องการเหยียดชาติหรือเผ่าพันธ์ุมาปรับใช้กับแอนดรอยด์ เล่นเพียงรอบเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่กับคนที่ติดใจเรื่องราวของเกมนี้ก็อาจใช้เวลาไปกับเกมนี้ได้อีกนาน สรุปคะแนน: (7.5/10) Detroit พัฒนารูปแบบการเล่นที่มีเอกลักษณ์ของค่าย Quantic Dream ได้อย่างที่ต้องเรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาแล้ว แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้เกมก่อนหน้าของค่ายออกมาสนุกมากๆ อย่างเนื้อเรื่องนั้นเกมนี้ทำออกมาได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นักสำหรับผม เลยทำให้ต้องหักไปหลายคะแนน โดยเฉพาะเมื่อคุ้นเคยกับการเล่นเกมของค่ายนี้อยู่แล้ว แต่กับคนที่ไม่เคยเล่นเกมของค่ายนี้มาก่อนน่าจะสนุกกับการเล่นเกมรูปแบบนี้เป็นครั้งแรก และเกมยังมีฉากที่น่าประทับใจบางฉากที่ทำได้ดีจริงๆ และหาจากเกมอื่นไม่ได้ด้วย ถ้าไม่ได้ชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่องหรือเกมของค่ายนี้เป็นพิเศษก็อาจผ่านๆ ไป แต่กับคนที่ไม่เคยเล่นเกมของค่ายนี้ก็น่าลองหามาเล่นดู เพราะถ้าชอบเนื้อเรื่องของเกมนี้ขึ้นมาด้วยแล้วก็น่าจะชอบเกมนี้ได้ไม่ยาก ดูรีวิวตัวเต็มแบบวิดีโอได้ที่นี่เลย
24 May 2018